วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คุณเรียกใครว่าเพื่อน

คุณเรียกใครว่าเพื่อน



ชีวิตเราๆ ต้องเจอะเจอผู้คนมากมาย

ทั้งที่ด้วยความจำใจ จำยอม จำเป็น บังเอิญ และด้วยความพอใจ

แต่ถึงยังไง เราก็เลือกที่จะเสวนาหรือไม่เสวนากับใครก็ได้ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ถ้าอย่างนั้นลองวาดภาพตาม..

คุณเป็นเด็กนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามา ณ โรงเรียนแห่งนี้

คุณไม่รู้จักใคร คุณไม่รู้จักอะไรเลย

แต่ด้วยระบบของโรงเรียน ทำให้คุณเข้าไปเรียนอยู่ในห้องเรียนห้องหนึ่ง

มีนักเรียนในห้องอยู่เกือบครึ่งร้อยชีวิต และแล้ว

อาจารย์ที่ปรึกษาก็แนะนำคุณให้กับนักเรียนในห้องนั้น

และบอกว่า "ดูแลเพื่อนด้วย"

มันอาจไม่ใช่ประโยคที่แปลกอะไร แต่..ใครเป็นเพื่อนของคุณ?

และคุณเป็นเพื่อนของใคร?

มันจะไม่แปลกใช่ไหม ถ้าคุณอาจจะถูกทอดทิ้งให้ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษ

เพียงลำพังในคาบวิชาภาษาอังกฤษ ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ ในห้องจับกันเป็นคู่ๆ

ก็ยังไม่มีใครบอกว่าเป็นเพื่อนคุณสักหน่อย

แล้วมันเป็นหน้าที่ของใครล่ะ ที่จะต้องมาดูแลคุณ

แต่คุณก็ไม่ละความพยายามหรอก ในเมื่อคุณเป็นนักเรียนใหม่

คุณก็เลยเดินเข้าไปหาคู่สนทนาเองเลย

คุณแนะนำชื่อคุณ บอกว่าย้ายมาจากโรงเรียนอะไร ทำไมถึงย้ายมาในช่วงนี้

เล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆที่คุณคิดว่าคนที่จะเป็นเพื่อนคุณควรจะรู้

คนๆนั้นก็บอกชื่อของเขากับคุณและยิ้มให้

ชวนคุยเป็นมารยาท และอาจเดินจากคุณไป

ถ้าคุณคิดว่าคุณได้เพื่อนหนึ่งคน

*เพื่อน* คำนั้นของคุณแปลว่า *คนรู้จัก*

บางทีคำว่า *คนรู้จัก* เนี่ย ก็แปลได้หลายความหมายเหมือนกัน

..อาจแปลว่าเขาและคุณรู้จักกัน หรือเขารู้จักคุณ หรือไม่ก็ คุณรู้จักเขาอยู่ฝ่ายเดียว

มันเป็นสิ่งที่ธรรมดาหรือแปลกประหลาดก็ไม่อาจบอกได้

ทุกวันนี้แค่เพียงคุณแนะนำตัวเองต่อกันและกัน

คุณก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 วินาที!

...โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็เออออห่อหมกว่า

โอเค เรารู้ชื่อของกันและกัน และเราก็ยิ้มให้กัน ดังนั้นเราเป็นเพื่อนกัน

..สมการการถ่ายทอดของคนรุ่นใหม่ คำว่า *เพื่อน* คำนี้

คงน่าสมเพชมากกว่าคำว่า *คนรู้จัก* ซะอีก

..อย่างดีคุณก็แค่จับคู่ของชื่อกับหน้าเจ้าของได้ถูก

..อย่างแย่ คุณก็จำไม่ได้เลยว่าเคยพบเจอคนๆนั้นมาก่อน

ถ้าเพียงแค่ลองลงท้ายคำแนะนำตัวว่า..

"ให้เราเป็นเพื่อนด้วยคนนึงนะ"

คุณคิดว่าไง? ..เคยมีคนพูดประโยคนี้กับคุณไหม? ...ประโยคที่ยกย่องคุณ

ขอให้ตัวเองได้เป็นส่วนนึงในชีวิตของคุณ

ได้ทำอะไรร่วมกับคุณ ได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับคุณ

ถ้าไม่มีก็คงไม่แปลก (ตามสมการการถ่ายทอดของคนรุ่นใหม่)

แต่ถ้ามี หรือกำลังจะมีล่ะ?

คุณคิดว่าประโยคคำพูดสั้นๆ ธรรมดาๆ ที่เด็กอนุบาลพูดกัน จะทำให้คุณรู้สึกยังไง?

มันไม่ใช่คำพูดที่ว่า -เป็นเพื่อนเราหน่อยนะ-

..คำพูดที่เอาตัวเองเป็นหลักแล้วก็ถูลู่ถูกังเอาคนอื่นมายินยอมด้วย

สองประโยคนี้คำตอบอาจไม่ต่างกัน

..คงไม่มีคนตอบว่า ไม่ได้หรอก

เราไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ อะไรประมาณนั้นตามมารยาท

แต่ความรู้สึกจากคำพูดมันต่างกันจริงไหม

ทุกวันนี้คุณอาจบอกว่า คุณได้เพื่อนมามากพอแล้ว

และเพื่อนคุณก็เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนที่จริงใจ

สารพัดคุณสมบัติที่ทำให้คุณทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน(หลาย)คนนี้ได้..

แต่ยังมีคนที่ไม่มีเพื่อนสนิทแบบคุณ

คนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมและพร้อมที่จะเป็นเพื่อนแท้กับคนที่เขาถูกชะตาด้วย

เพียงแค่เขายังไม่เจอกับคนที่เขาถูกชะตา

ซึ่งคนๆนั้นอาจเป็นคุณ ถ้าเพียงคุณเปิดใจรับเพื่อนอีก

..อย่างน้อยคุณก็ได้เพื่อนอีกคน และเขาก็ได้เพื่อนอีกคน

..และอย่างมากที่สุด คุณก็ได้เพื่อนแท้มาอีกคน

"ดูแลเพื่อนด้วย"

คงเป็นอีกประโยคหนึ่ง ที่จะสามารถเรียกความซึ้งใจออกมาได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น